เรียบเรียงโดย
นพ.ศรัณย์ ศรีคำ, แพทย์อาชีวเวชศาสตร์
นพ.วิวัฒน์ เอกบูรณะวัฒน์, แพทย์อาชีวเวชศาสตร์
วันที่เผยแพร่ 20 สิงหาคม 2556
(Working with Computer: How to Care Yourself)
ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าคอมพิวเตอร์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของมนุษย์ ทั้งในด้านการทำงาน การติดต่อสื่อสาร รวมถึงการพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะในด้านการทำงานนั้น ได้มีการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้กันอย่างแพร่หลายในงานหลายๆ ด้าน เช่น งานธุรการ งานด้านการเงิน งานสถิติ งานด้านการคำนวณ งานด้านการนำเสนอผลงาน หรือแม้แต่งานด้านการแพทย์ นับวันคอมพิวเตอร์ก็จะยิ่งมีบทบาทในการทำงานด้านต่างๆ มากขึ้น ดังนั้นจำนวนผู้ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานหรือการประกอบอาชีพก็จะยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นด้วย แต่การทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานได้ โดยเกิดได้ทั้งปัญหาทางสายตา อาการตาล้า อาการระคายเคืองตา การปวดเมื่อยกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย และการได้รับรังสีในขนาดต่ำ
ตัวอย่างกลุ่มอาชีพที่อาจต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เช่น
ปัญหาทางสายตา (Visual problems)
กลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการเพ่งมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานนั้นมีชื่อเรียกว่า Computer vision syndrome (CVS) หรืออาจเรียกว่า Video display terminal syndrome (VDTS) ก็ได้ กลุ่มอาการนี้ เกิดจากการเพ่งมองส่วนแสดงผลของคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
ส่วนแสดงผลของคอมพิวเตอร์นั้น มีชื่อเรียกเฉพาะว่า Video display terminal (VDT) หรือในอดีตอาจเรียกว่า Visual display terminal (VDT) หรือ Visual display unit (VDU) ก็ได้ ส่วนแสดงผลส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นหน้าจอ (Monitor) หรืออาจเป็นการฉายภาพไปบนจอ ในกลุ่มของหน้าจอหมายรวมถึงทั้งหน้าจอแบบ Cathode ray tube (CRT) แบบในอดีต และแบบ Liquid crystal display (LCD) หรือ Light emitting-diode (LED) หรือ Gas plasma แบบที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน หน้าจอส่วนแสดงผลของคอมพิวเตอร์นี้ สร้างภาพโดยใช้การแสดงจุดของแสงสว่างที่ต่างๆ กันขึ้นบนหน้าจอ การมองภาพบนหน้าจอจึงทำให้ตาต้องมองแสงสว่างและต้องใช้การเพ่งมากกว่าปกติ
กลุ่มอาการ Computer vision syndrome (CVS) จะทำให้เกิดอาการทางตาหลายอย่าง ที่พบบ่อยคืออาการตาล้า (Fatigue) ทำให้ปวดรอบดวงตา (Eye strain) ร่วมกับมีอาการระคายเคือง (Irritated eye) และตาแห้ง (Dry eye) บางครั้งอาจมีอาการปวดศีรษะ (Headache) วิงเวียนศีรษะ (Vertigo) น้ำตาไหล (Lacrimation) ตาแดง (Redness) เห็นภาพไม่ชัด (Blur vision) และเห็นภาพซ้อน (Double vision) ร่วมด้วย สำหรับเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานแล้วอาจจะทำให้สายตาสั้นนั้น ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่มีในปัจจุบันยังไม่พบความสัมพันธ์ที่ชัดเจน
ปัญหาทางตาที่เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานนี้ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก สาเหตุการเกิดเนื่องจากการมองจอภาพคอมพิวเตอร์นั้น เป็นเหมือนการมองไปที่จุดแสงสว่าง ซึ่งตาจะต้องเพ่งมองเพื่อปรับโฟกัสภาพมากกว่าปกติ เมื่อใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานติดต่อกัน จึงทำให้เกิดอาการปวดตา ตาล้า และตาแห้งได้ง่าย นอกจากนี้อาจมีสิ่งรบกวนการมอง เช่น แสงสะท้อนที่หน้าจอ แสงรบกวนที่ส่องเข้าตา ตำแหน่งของหน้าจอและเอกสารที่ไม่เหมาะสม แสงสว่างของบริเวณโดยรอบที่น้อยเกินไป ปัจจัยเหล่านี้ยิ่งทำให้อาการทางตาจากการใช้คอมพิวเตอร์เกิดมีได้มากขึ้น การแก้ไขปัญหาสามารถทำได้ดังนี้
ปัญหาทางกระดูกและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal problems)
ผู้ที่การทำงานกับคอมพิวเตอร์อาจต้องทำงานโดยอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ หรือมีการทำงานที่ต้องมีการเคลื่อนไหวซ้ำๆ ของมือ แขน และนิ้ว ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้อาจทำให้เกิดอาการล้าของกล้ามเนื้อ อาจก่อให้เกิดอาการปวดหรือบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ นอกจากนี้ผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคของข้อ เส้นเอ็น หรือเส้นประสาทต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น ทำให้มีอาการปวดเรื้อรังหรือชาได้ วิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาสามารถทำได้ดังนี้
ภาพลักษณะการนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม (ที่มา: OSHA, 1997)
ปัญหาการได้รับรังสี (Radiation)
นอกจากปัญหาทางตา และทางกระดูกและกล้ามเนื้อที่พบได้บ่อยแล้ว การทำงานกับจอคอมพิวเตอร์ยังทำให้ต้องสัมผัสกับรังสีชนิดต่างๆ เช่น รังสีเอกซ์ (X-ray) รังสีคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) และสนามแม่เหล็กไฟฟ้ากำลังอ่อน (Extremely low frequency electromagnetic field) ได้ ปริมาณรังสีชนิดต่างๆ ที่ออกมาจากจอคอมพิวเตอร์นั้นจะต่ำมาก และยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจนว่าก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตามมีความกังวลในกลุ่มผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์บางกลุ่ม เช่น คนตั้งครรภ์ ว่าอาจมีโอกาสได้รับความเสี่ยงจากรังสีเหล่านี้มากกว่าคนทั่วไป การทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็น และไม่ใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่จำเป็นมากเกินไปนอกเวลางาน จึงยังคงเป็นคำแนะนำที่ปลอดภัยสำหรับคนทำงานกลุ่มนี้อยู่
เอกสารอ้างอิง